ความน่าจะเป็น ความน่าจะเป็น หมายถึง จำนวนที่แสดงให้ทราบว่าเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด เช่น ในกล่องใบหนึ่งมีลูกบอลสีแดง 5 ลูก สีขาว 3 ลูก หลับตาหยิบขึ้นมา 1 ลูก โอกาสที่จะหยิบได้ลูกบอลสีใดมากกว่ากัน กรณีนี้ตอบได้ว่า โอกาสหยิบลูกบอลสีแดงได้มากกว่า เพราะในจำนวน 8 ลูก เป็นลูกสีแดงถึง 5 ลูก แต่มีลูกสีขาวเพียง 3 ลูกเท่านั้น การทดลองสุ่ม การทดลองสุ่ม หมายถึง การทดลองซึ่งทราบผลลัพธ์ว่าจะเกิดอะไรได้บ้าง แต่ไม่สามารถพยากรณ์ผลที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งว่าจะเป็นอะไร เช่น ในการโยนเหรียญเที่ยงตรง 1 เหรียญ เราทราบว่า ถ้าไม่ขึ้นหัวก็ต้องขึนก้อย แต่ในการโยนแต่ละครั้งไม่อาจบอกได้ว่าจะขึ้นหัวหรือขึ้นก้อย แซมเปิลสเปซ แซมเปิลสเปซ หมายถึง ผลทั้งหมดที่เกิดจากการทดลองสุ่ม เช่น โยนลูกเต๋า 1 ลูก 1 ครั้ง ผลที่เป็นไปได้ทั้งหมด = {1, 2, 3, 4, 5, 6} ถ้าให้ S แทน แซมเปิลสเปซ จะได้ S = {1, 2, 3, 4, 5, 6} สูตรในการหาแซมเปิลสเปซ 1. โยนเหรียญ 1 อัน n ครั้ง จะได้ S = 2n (เหรียญมี 2 หน้า และ n คือ จำนวนครั้งที่โยน) 2. โยนเหรียญ n อัน 1 ครั้ง จะได้ S = 2n (n คือจำนวนเหรียญที่โยน) 3. ทอดลูกเต๋า 1 ลูก n ครั้ง จะได้ S = 6n (ลูกเต๋ามี 6 หน้า n คือจำนวนครั้งที่โยน) 4. ทอดลูกเต๋า n ลูก 1 ครั้ง จะได้ S = 6n (n คือจำนวนลูกเต๋า) เหตุการณ์ เหตุการณ์ หมายถึง การทดลองสุ่มแต่ละครั้งที่เราสนใจ เช่น ในการโยนเหรียญ 1 เหรียญ 2 ครั้ง สนใจที่จะขึ้นหัวทั้ง 2 ครั้ง เป็นดังนี้
ถ้า
S แทน แซมเปิลสเปซ E แทน เหตุการณ์ที่สนใจ(ในที่นี้สนใจขึ้น H 2 ครั้ง) จะได้ S = {HH, HT, TH, TT} E = {HH} ซึ่งมีเหตุการณ์เดียว ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ คือ จำนวนจำนวนหนึ่งที่บอกถึงโอกาสมากน้อยที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์ที่เราสนใจ สูตรความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุกาณ์ = (จำนวนผลลัพธ์ของเหตุการณ์/จำนวนผลลัพธ์ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นได้) เขียนได้เป็น P(E) = n(E)/n(S) เมื่อ n คือจำนวนเหตุการณ์ สรุปทฤษฎีความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ถ้า S แทน แซมเปิลสเปซ E แทนเหตุการณ์ใด ๆ ในแซมเปิลสเปซ จะได้ 1. 0 ≤ P(E) ≤ 1 2. P(E) = 1 เมื่อ n(E) = n(S) 3. P(Φ) = 0 เมื่อไม่มีเหตุการณ์ที่สนใจ ตัวอย่างความน่าจะเป็น ตัวอย่างโจทย์ความน่าจะเป็นในการโยนเหรียญ1อัน2ครั้งจงหาความน่าจะเป็นที่ S = {HH, HT, TH, TT} และ n(S) = 4 1. เหรียญขึ้นหัวทั้งสองอัน E = {HH}, n(E) = 1 นั่นคือ P(E) = 1/4 2. เหรียญขึ้นหน้าเหมือนกันทั้งสองครั้ง E = {HH, TT}, n(E) = 2 นั่นคือ P(E) = 2/4 = 1/2 3. เหรียญขึ้นหัวอย่างน้อย 1 ครั้ง E = {HH, HT, TH}, n(E) = 3 ดังนั้น P(E) = 3/4
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น